AR กับ VR ต่างกันอย่างไร ตัวช่วยรูปแบบใหม่สำหรับ AD โฆษณา

ความแตกต่างระหว่าง AR VR ต่างกันอย่างไร

แต่เดิมที่มนุษย์ต้องการเพียงปัจจัย 4 เพื่อดำรงชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดเพิ่ม แต่โลกในปัจจุบันหมุนรอบตัวเองไวกว่าที่มนุษย์เราจะทันตั้งตัว ทำให้การเป็นอยู่ถูกพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมภายนอก ปี 2021 แทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันจนทำให้กลายเป็นปัจจัย 5 ที่ถือกำเนิดใหม่

ทั้งกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา ด้านธุริกิจ การติดต่อสื่อสาร หรืออื่นๆ ล้วนแต่ใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นตัวแปลหลักทำให้เทคโนโลยีมีความหลากหลาย สะดวกต่อการใช้งานและเติบโตอย่างไม่รู้จบ การนำเทคโนโลยีมาปรับให้ตรงกับพฤติกรรมมนุษย์ในแต่ละวัน นั้นมีอย่างหลากหลาย ในทศวรรษนี้เทคโนโลยีที่เรียกว่า AR/VRนั้น กลับมามีอิธิพลในด้านต่างๆอีกครั้ง ทำให้ผู้คนกลับมาให้ความสนใจและจึงนำไปสู่ยุคทองของเทคโนโลยีภาพเสมือน

AR VR ต่างกันอย่างไร ตัวช่วยรูปแบบใหม่สำหรับ AD โฆษณา

Augmented Reality คืออะไร

AR หรือ Augmented Reality ที่เรารู้จักนั้นคือภาพเสมือน 3 มิติ วีดิโอ เสียง หรือแม้แต่ข้อมูลต่างๆที่ประมวลผลมาแล้วนั้น ได้มีการพํฒนาครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2004 ด้วยการเพิ่มภาพเสมือน 3 มิติ ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ ลงไปในสื่อต่างๆ แบบเฟรมต่อเฟรม แต่ต้องหยุดชะงักไปเพราะข้อจำกัดทางเทคนิกที่ยังไม่ทั่วถึง ต่อมาได้มีเทคโนโลยีใหม่ที่เอื้อต่อการพัฒนา จึงทำให้เทคโนโลยีนี้กลับมามีจุดยืนอีกครั้ง ซึ่งถูกผสมผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกันอย่างลงตัวผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ที่ต้องเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆกับระบบ software นั้นๆ 

ในปัจจุบัน AR ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและนิยมใช้อย่างแพร่หลาย ข้อดีของ AR นั้นทำให้ผู้ใช้งานสามรถเห็นภาพ3มิติของสิ่งของหรือวัตถุต่างๆได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยีARเป็นหนึ่งในสื่อการเรียนการสอน ถือเป็นการปลดล็อกและยกระดับคุณภาพการศึกษาจากรูป 2 มิติในหนังสือเดิมๆ สู่ภาพ 3 มิติ ที่ทำให้เด็กนักเรียนนั้นเห็นภาพและเข้าใจในบทเรียนนั้นๆมากขึ้น หรือการที่ AR กลายเป็นฟังชั่นหลักในเกมส์ที่มีกระแสโด่งดังไปทั่วโลกและยังทำให้เกมส์กับ AR กลับมาจับมือเดินด้วยกันอีกครั้ง ไม่มีเกมส์ได้นอกจากเกมส์ Pokemon GO ที่ผู้เล่นจะต้องออกไปจับโปเกม่อนข้างนอกด้วยโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเอง มีกระแสตอบรับที่ดีเหนือความคาดหมายจากผู้เล่นอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การได้มิตรภาพใหม่ๆ เปิดโลกกว้างสู่สถานที่ใหม่ๆ หรือแม้แต่การเดินออกกำลังกายในขณะที่ผู้เล่นกำลังจับโปรเกม่อนไปด้วย 

Virtual Reality คืออะไร

VR หรือ Vitual Reality เป็นเทคโนโลยีที่จำลองสถานที่ขึ้นมา ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นได้ด้วย โดยอาศัยหลักการมองเห็น เสียง และสัมผัส ผ่านอุปกรณ์ต่างๆที่อำนวยต่อการใช้งาน เช่น โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ที่สร้างมาพิเศษอย่างแว่นตาหรืออุปกรณ์ที่ใช้สวมใส่เพื่อความเสมือนจริงในการใช้งานงาน  

VR ถูกพูดถึงและนำมาใช้ในด้านต่างๆเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับ AR ที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้เกิดการพัฒนาตัวอุปกรณ์ฮาร์ตแวร์ที่ค่อนข้างจะก้าวกระโดด ซึ่งอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์ที่เน้นถ่ายภาพ 360 องศาทำให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นได้อย่างรอบด้าน และได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ได้กับทุกด้วนบนโลกในนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการต่างๆ ที่ล้วนแต่ให้ประสบการณ์สมจริงมากยิ่งขึ้น ประเทศสหรัฐอเมริกาได้นำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้กับสายงานต่างๆ เช่น การนำ VR ให้พนักงานฝึกหัดได้เห็นสถานการณ์สมมติที่อาจจะเกิดขึ้นจริงและได้ให้ลองแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเอง  หรือในทางการแพทย์นั้นใช้ VR เพื่อการฝึกผ่าตัดเสมือนจริง หรือด้านธุรกิจที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากในช่วงนี้ก็คือ การนำVRมาปรับใช้กับการโฆษณาสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้นำภาพ VR ไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อขาย เช่นการขายเฟอร์นิเจอร์ หรือ การขายอีเว้นผ่าน VR เป็นต้น 

ความแตกต่างระหว่าง AR กับ VR

ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ AR คือการนำวัตถุ 3D มาทับซ้อนบนโลกจริงของเรา ผ่านการประมวลผลจากซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ควบคู่กัน ซึ่งเราจะไม่มีการโต้ตอบกับอนิเมชั่นดังกล่าวได้ ส่วน VR นั้นแสดงโลกเสมือนจริงขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้ตัดขาดจากโลกความเป็นจริง และเข้ามายังอีกโลกหนึ่งโดยผ่านการรับรู้ด้านการมองเห็น เสียง และการสัมผัส อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับVR คือสมาร์ทโฟน แว่นตา VR หรือบางส่วนอาจจะมีอุปกรณ์ต่างๆ เสริมเข้ามาอีกก็ได้ โดยผู้ใช้ VR นั้นจะสามารถทำการโต้ตอบภายในโลกเสมือนจริงได้อย่างเต็มอารมณ์

ตัวช่วยทางเลือกสำหรับโฆษณา 

ในวิกฤตโควิด 19 นี้ทำให้ผู้ประกอบการทุกขนาดล้วนแต่ได้รับผลกระทบ ผู้คนต่างวิตกกังวลกับโรคระบาดครั้งนี้ จึงส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดความทรุดเซาลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการค้าขาย ซึ่งแต่เดิมอาจจะเป็นหน้าร้านที่ลูกค้าสามารถ walk in เข้ามาดูสินค้า/บริการได้ เปลี่ยนเป็นวิธีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น และต้องหาจุดเด่นในการโฆษณาผ่าน Social Media อีกด้วย เช่นการถ่ายภาพและจัดพรอบให้ดึงดูดสายตา หรือการนำเทคโนโลยี AR/VR มาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นการสร้างเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ที่น่าจดจำของสินค้าและบริการ

การใช้ AR ประกอบการโฆษณา

หากเราลองสังเกตดีๆเทคโนโลยี AR ได้ถูกใช้บนโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มมาซักพักใหญ่ๆแล้วเช่น การที่แอพพลิเคชั่นshopeeนั้นจะมี feature AR ที่ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกสีลิปสติกได้ตามใจชอบ โดยการที่ใช้ sensor ในการตรวจจับใบหน้าของลูกค้า แล้วลูกค้าจะได้เห็นสีลิปสติกต่างๆที่วางขายบนปากตัวเองผ่านสมาร์ทโฟน หรือแม้แต่ การขายสินค้าบน Facebook, Amazon และ eBay ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ AR มาเป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจของลูกค้าทั้งสิ้น การแข่งขันธุรกิจด้วยเทคโนโลยีนี้อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คุณภาพของสินค้าเสียทีเดียว แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของภาพเสมือนจริงที่ผู้ประกอบการจะต้องบรรยายรายละเอียดของสินค้าด้วยความถูกต้องและแม่นยำ 

การใช้ VR ประกอบการโฆษณา

หลายธุรกิจจึงเริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อสร้างความน่าจดจำของแบรนด์มากยิ่งขึ้น มากไปกว่านั้นลูกค้ายังได้สัมผัสถึงการมีส่วนร่วมและรับรู้ถึงความก้าวหน้าของแบรนด์ และข้อดีของ VR สามารถใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 

  • บริษัทน้องใหม่อย่าง majestic360 ที่มีบริการถ่ายภาพเสมือนจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อย่างละเอียด ทำให้ผู้ใช้งานสามาถเห็นสิ่งก่อสร้างได้อย่างชัดเจนและทั่วถึง เหมือนเดินอยู่ในอสังหาริมทรัพย์นั้นจริงๆ 
  • บริษัทIKAE ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ลูกค้าได้จัดวาง ปรับแต่ง เลือกเฟอร์นิเจอร์เอง หรือออกแบบห้องตามที่ตนชอบ 
  • การใช้ VR Tour ในการประยุกต์กับการทำกิจกรรมทางการตลาด
  • Virtual Reality Tour สำหรับเซลล์ที่ต้องการปิดการขายผ่านการนำเสนอ เช่น การเข้าชมสถานที่ การออกบูธ โดยใช้ VR Tour เป็นอุปกรณ์หลักต้องการเสนอขาย ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพครบ360องศา และสามารถปรับแต่งตามใจชอบ
  • ธุรกิจออกแบบบบรจุภัณฑ์  เช่น กล่อง ฉลาก ขวด ถุง นำ VR มาเป็นตัวช่วยในการออกแบบ การลงรายละเอียดต่างๆโดยไม่ต้องสั่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์ให้เปลืองทรัพยากรณ์ 

ข้อดีของการใช้เทคโนโลยี AR และ VR กับการโฆษณา

  • ลดค่าใช้จ่าย ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง ประหยัดเวลาทั้งลูกค้าและผู้ประกอบการ ไม่ต้องมีพนักงานขาย เพราะไม่จำเป็นจะต้องมีหน้าร้าน หรือทำการตั้งบูธเพื่อโปรโมท ผู้ประกอบการสามารถโปรโมทโดยผ่าน Social Media 
  • ลดการสัมผัสเชื้อโรคหรือไปในพื้นที่เสี่ยงในช่วงวิกฤตโควิด 19 ผู้ใช้งานสามารถรับบริการผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นได้ง่ายๆเพียงปลายนิ้วสัมผัส 
  •  สามารถเป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจ เพราะลูกค้าจะเห็นตัวสินค้าและบริการก่อน
  • เติบโตกว่าผู้ค้าคู่แข่ง และมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้มากกว่า ทำให้ลูกค้าได้มีการโต้ตอบสมจริงยิ่งขึ้นมากกว่าข้อความ 

ข้อเสียของการใช้เทคโนโลยี AR และ VR กับการโฆษณา

  • ผู้ใช้งานบางคนอาจจะมีข้อจำกัดในด้านสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการตลาดในยุคนี้ เพราะอาจจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก 
  • ใช้ต้นทุนที่ค่อนข้างสูงจึงทำให้ผู้ค้ารายย่อยที่ต้นทุนอาจจะมีไม่เพียงพอ ไม่สามารถเอื้อมถึงได้เทคโนโลยีนี้ ได้
  • ผู้ใช้งาน VR บางราย มีสภาพร่างกายที่ต่อต้านอย่างชัดเจน ส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้และวิงเวียนศีรษะ เพราะเกิดความถี่ที่แตกต่างจากโลกความจริงขึ้นและต้องวางอุปกรณ์ ใกล้กับดวงตาเพียงไม่ถึง 10 เซนติเมตรเท่านั้น  

อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี AR และ VR มีกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม เป็นที่น่าสนใจของนักพัฒนาและผู้ประกอบกการ ในการปรับใช้เทคโนโลยีนี้กับการเพิ่มยอดขายและทำการตลาด เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพิ่มความน่าจดจำและน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า ในยุกต์ที่ smartphone เข้ามาเป็นปัจจัยที่5 ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำการตลาดผ่านสื่อ social media ต่างๆ กับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้ ธุรกิจที่นำ AR/VR มาใช้นั้น จะได้ผลคุ้มค่าหรือไม่ขึ้นอยู่กับการทำการตลาดของแต่ละบริษัท โดยลูกค้ากลุ่มนี้มัก Social Media เป็นประจำอยู่แล้วซึ่งง่ายต่อการทำตลาด เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบ B2B B2C หรืออื่นๆ

อนาคตคาดว่าเทคโนโลยีนี้สามารถพัฒนาได้ก้าวไกลและถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเหรียญย่อมมีสองด้าน ในการนำเทคโนโลยีมาใช้อาจจะส่งผลเสียบางอย่างตามมา หากไม่ระวังและไม่มีความรอบคอบ 

TeeDD360 ยินดีให้บริการ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ หากต้องการคำแนะนำ เพื่อให้ธุรกิจของคุณก้าวทันยุค ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และเป็นหนึ่งในบริษัทที่เนรมิตให้คุณครบวงจร ทั้ง Virtual tour 360, Google My Business, Google Street View และ Drone Photography สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลย!

รับถ่ายภาพ VR / AR แบบครบวงจร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางด้านล่งนี้

Leave a Reply